สอนเด็กๆ ให้เรียนรู้สถานการณ์โลกจากข่าว

2011/05/11

ด้วยยุคที่สื่อมีมากมายหลายประเภท รวมถึงข่าวสารที่มีอยู่มากมาย ทั้งจากบทสนทนาที่ผู้ใหญ่พูดคุย ข่าวตอนเย็น หรือภาพจากหนังสือพิมพ์ เด็กๆอาจจะรู้สึกว่าข้อมูลมันช่างเยอะและมากล้นเหลือเกิน…

อีกทั้งเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะควบคุมข้อมูลข่าวสารที่จะออกมาสู่เด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปความรุนแรงต่างๆ จากสงคราม ภัยพิบัติต่างๆที่นับวันจะมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเด็กๆอาจจะเสี่ยงต่อการบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ไม่เหมาะสมกับวัย โคโรไลน์ คนอร์ บรรณาธิการสื่อเพื่อครอบครัวได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจสำหรับวิธีที่ผู้ปกครองควรปฏิบัติต่อลูกหลาน

รวมถึง อีริก รอสสัน นักวิชาการทางจิตวิทยาและผู้อำนวยการสมาคมวิชาชีพจิตวิทยาโรงเรียน ได้กล่าวว่า การที่เด็กได้บริโภคข้อมูลข่าวสารเยอะๆไม่ใช่เรื่องแย่สักทีเดียว แต่ผู้ปกครองควรดูแลและควบคุมในการรับสารของเด็กๆ ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเปิดข่าวตอนเย็นให้เด็กดู ขอแนะนำ 10 วิธีปฏิบัติ ในการพูดคุยกับเด็กเกี่ยวกับข่าวสาร
สถานการณ์ปัจุบัน

วิธีที่ 1 การจำกัดการรับชมภาพและเสียงจากสื่อ เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ทีวีแต่ละช่องจะแสดงข่าวซ้ำๆ ซำ้ไปซำ้มา แต่นักวิชาการทางจิตวิทยา รอสสัน ได้กล่าวว่า เด็่กอายุน้อยๆ อาจจะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังชมข่าวที่ฉายซำ้ไปซำ้มา เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นถูกฉายซ้ำๆ เด็กเล็กอาจจะเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันแทน พ่อแม่ควรปิดทีวีเมื่อเหตุการณ์สะเทือนใจเหล่านี้เกิดขึ้น ควรจำกัดภาพที่เด็กรับชม เพราะเด็กๆเหล่านี้ มักจะได้รับอิทธิผลจากภาพเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายมากกว่าเสียงพูด และลดเสียงทีวีลงเมื่อมีเสียงดัง เช่นข่าวยิงกัน หรือการระเบิด เพราะเด็กอาจตื่นตระหนกตกใจ

วิธีที่ 2 การอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเด็กเห็นภาพและต้องการที่จะรู้มากขึ้น ควรอธิบายแต่เพียงข้อมูลพื้นฐานและเล่าถึงบริบทที่เกิดขึ้น มากาเร็ต นิกเกิล ผู้อำนวยการ สถาบันอิรักสันเพื่อเด็กและครอบครัว ได้เสริมว่าเด็กได้รับรู้เหตุการณ์ต่างไๆที่เกิดขึ้นตลอดช่วงวัยของเขา หากเด็กๆเห็นภาพเครื่องบินตก หรือคนต่อสู้กัน พวกเขาอาจจะไม่รู้ว่าคงามขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นอีกซีกโลกหนึ่ง การโชว์และใช้แผนที่อธิบายจะเสริมความเข้าใจดียิ่งขึ้น

วิธีที่ 3 การเล่าถึงเหตุการณ์อย่างพอดี ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กบริโภคข่าวสารมากจนเกินไป ยกตัวอย่าง เช่น หากเด็กชมภาพทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามในอิรัก พ่อแม่ควรอธิบายว่าทหารเหล่านี้กำลังถูกไปส่งมี่โรงพยาบาล เพื่อรักษา พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าทหารเหล่านี่้อยู่ที่ไหน หรือประเทศกำลังเกิดสงคราม

วิธีที่ 4 แคร์ความรู้เด็กเมื่อตื่นกลัว หากพฤติกรรมของเด็กเปลี่ยน จากการพูดเก่งเป็นพูดน้อยและดูครุ่นคิดมากขึ้น เด็กๆอาจจะพยายามตีความสารนั้นๆ กระตุ้นให้เด็กพูดออกมาถึงสิ่งที่เข่คิดอยู่ หากลูกเล่าถึงเหตุการณ์ใหม่ ถามคำถามปลายเปิดกับเด็ก เช่น ว่าเห็นอะไร รู้สึกอย่างไร ค่อยๆให้เด็กเล่า โดยไม่ทำให้เด็กรู้สึกบีบคั้นเกินไป หรือรู้สึกว่าข้อมูลล้น และปรับความรู้สึกโดยพ่อแม่เล่าถึงความรู้สึกของตนเองว่ารู้สึกอย่างไรต่อเหตุการณ์นั้นๆ

วิธีที่ 5 การเรียนรู้ร่วมกัน คนอร์เล่าว่า เด็กโต อาจอยากศึกษาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากรู้เรื่องฮอร์ริเคน หรือแผ่นดินไหว เพื่อช่วยผ่อนคลายความกังวลและกลัวลง การเรียนรู้เรื่องภัยพิบัติทางออนไลน์ร่วมกัน การอ่านหนังสือเพื่อศึกษาถึงตำแหน่งสถานที่ๆเกิดเหตุในข่าว

วิธีที่ 6 ตั้งสติในการให้ข้อมูล เมื่อข่าวที่เกิดขึ้นทำให้เด็กๆรู้สึกเครียด เด็กจะมองหาผู้ที่ให้คำแนะนำ พ่อแม่ควรตั้งสติ ไม่ว่ารูปที่ปรากฎตรงหน้าจะเป็นอะไร หากเด็กดูเครียด ยำ้กับเขาว่าที่ๆเราอยู่ปลอดภัย พูดกับเขาว่า พ่อแม่รู้ว่ามันรูปสงครามอิรักดูน่ากลัว แต่ที่ๆเราอยู่ไม่มีสงครวม

วิธีที่ 7 รักษาเวลา หากเด็กรู้สึกเครียด กังวลกับข่าว รักษาเวลาในการดูทีวีให้ปกติ หากเด็กๆรู้สึกกลัวเวลาไปนอน หรือการไปโรงเรียน สละเวลาเพื่อช่วยลูกๆปรับตัวซัก 2-3 วัน เพื่อให้หายจากความหวาดกลัวนั้น

วิธีที่ 8 เล่นกับลูก เด็กจะเล่นเพื่อให้หายจากความกลัว หากเด็กยังรู้สึกกลัว เล่นกับเขาโดยการอาจเล่นเป็นนักดับเพลิง วิ่งเข้าไปในตึกที่ไฟไหม้ หรือการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการช่วยคนจากซึนามิ พ่อแม่ควรเข้าไปดูแล หากลูกๆ มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อเด็กคนอื่นๆ

วิธีที่ 9 เน้นเรื่องเชิงบวก หลังจากเหตุการณ์ความรุนแรง เช่น การโจมตีจากกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ความเสี่ยงผลกระทบด้านลบต่อเด็กจะมีแทบจะทันที การเล่าถึงคนที่ไม่ดี มาโจมตีเรา รอสสันแนะนำให้เราเน้นเล่าเรื่องเชิงบวกแทน เช่นการเล่าถึงคนหรือองค์กรที่จะมาช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบ หรือบาดเจ็บ เป็นต้น

วิธีที่ 10 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ จากศูนย์ฉุกเฉิน หรือผลกระทบจากภัยพิบัติแห่งชาติ อาจถามเด็กว่าอยากช่วยเหลือไหม หลังจากนั้นพยายามหาวิธีที่ลูกๆจะมีส่วนร่วมในการบริจาคเงิน หรือเวลา หรือการกระตุ้นให้เกิดความตระหนักต่อสาเหตุและผลกระทบ การขายน้ำมะนาว หรือการรวบรวมเงินเพื่อช่วยการวิจัยป้องกันรักษามะเร็ง เป็นต้น

ไม่ว่าเหตุการณ์ในข่าวจะเป็นอะไร หลีกเลี่ยงการอธิบายเพื่อให้จบๆไป แต่ใช้โอกาสในการกระตุ้นและส่งเสริมให้ลูกหลานได้เรียนรู้เชื่อมโยงกับโลก กับข่าวนั้นๆ

เรียบเรียงจาก 10 Ways to Talk to Kids About World Events in the News โดย ซาแมนธา ครีฟเวอร์ นักการศึกษาพิเศษ
คัดลอกบทความนี้จาก สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)

Google Docs อย่างเป็นทางการของ Android

2011/05/03

ปกติแล้วบน Android จะมีตัวโปรแกรมของทาง Google ไว้หมดเช่น Gmail, Gtalk แต่ว่าตัว GDocs กลับกลายเป็นว่าเพิ่งจะมีซะงั้น

มาซะทีสำหรับโปรแกรม Google Docs อย่างเป็นทางการของ Android ซึ่งตัวโปรแกรมจะรองรับเวอร์ชั่นเครื่องของ Android 2.1 ขึ้นไป โดยตัวโปรแกรมสามารถ สร้าง, ดู, แก้ไข, แชร์ และอัพโหลดไฟล์เอกสารได้ทันทีผ่าน Smartphone หรือ Tablet

ตัว Apps มีเฉพาะภาษาอังกฤษ สำหรับตัวโปรแกรมนี้มันเทพตรงที่ว่าคุณสามารถถ่ายภาพเอกสารแล้วตัวโปรแกรมจะแปลงตัวอักษรที่มีในเอกสารมาเป็นไฟล์เอกสารแบบปกติได้ โอ้ว สุดยอด!! โดยใช้เทคโนโ,ยี OCR เหมือนกับที่ตัวโปนแกรม Google Goggle ใช้งาน

ตอนนี้สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Google Docs ได้แล้วผ่านทาง Android Market หรือสามารถลงง่ายๆผ่านการ Scan QRCode ที่ Blog อย่างเป็นทางการของ Google

ชอบวิธีคิด

2011/04/21

This slideshow requires JavaScript.

ดวงดาวที่น่าพิศวงที่สุดในจักรวาล

2011/04/12
อันดับ10 ดาวแคระขาว เมื่อ ดาวฤกษ์ซึ่งมีมวลขนาดดวงอาทิตย์หรือน้อยกว่า1.4 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ เผาผลาญเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หมดไป ผิวนอกของมัน จะระเบิดและกระจายไปในอวกาศ ส่วนแกนกลางจะยุบตัวลงกลายเป็นดาวแคระขาว(white dwarf)นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเปลือกของดาวแคระขาวซึ่ งมี ความหนาราว 31 ไมล์หรือ 50 กิโลเมตรเป็นผลึกของคาร์บอนและออกซิเจนซึ่งคล้ายกับเ พชร ดาวแคระขาวจึงถูกเรียกขานว่า”เพชรในอวกาศ”
อันดับ 9 ดาว แม็กเนตาร์(Magnetars) คือดาวนิวตรอนชนิดหนึ่ง ความน่าพิศวงของมันก็คือ สนามแม่เหล็กของดาวแม็กเนตาร์มีพลังงานสูงกว่าสนามแม ่เหล็ก ของโลกหลายพัน ล้านเท่า มันปล่อยรังสีเอ็กซ์ออกมาทุกๆ 10 วินาที และบางครั้งยังปล่อยรังสีแกมมาออกมาอีกด้วย

อันดับ 8 กระจุกดาว ดาว ฤกษ์ต่างๆในกาแล็กซี่ไม่ได้อยู่กันตามลำพังหรือเป็นค ู่ๆ หรือสามสี่ดวงเท่านั้น ทว่ายังมีดาวฤกษ์อยู่ใกล้กันเป็นกระจุกอีกด้วย บางกระจุก ดาวมีดาวฤกษ์เพียงไม่กี่สิบดวง แต่บางกระจุกดาวมีดาวฤกษ์มากถึงหลายล้านดวง ดาวฤกษ์เหล่านี้กำเนิดในช่วงเวลาเดียวกันและในบริเวณ เดียวกันก็จริงแต่ทำไมพวกมันจึงอยู่รวมกันเป็นกระจุก ? นี่เป็นปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้จนทุกวันนี้
อันดับ 7 พัลซาร์ ปี 1999 นักดาราศาสตร์ตรวจพบรังสีเอ็กซ์และรังสีแกมมาที่ปล่อ ยออกมาจากดาวนิวตรอน เชื่อกันในขณะนั้นว่ามันเป็นการระเบิดซึ่งเกิดจากการ สั่นไหวของพื้นผิวดาว นิวตรอนที่เรียกว่า Starquake คล้ายกับแผ่นดินไหวบนโลก ทว่าการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ของ จอห์น มิดเดิลดิตช์ นักวิทยาศาสตร์ของห้องทดลอง แห่งชาติลอส อลามอส และทีมงานพบว่ามันเกิดจากการหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร ็วพัลซาร์ (Pulsar) ดาวนิวตรอนชนิดหนึ่ง และยังพบว่าเวลาการสั่นไหวในครั้งต่อไปของมันจะเป็นส ่วนกับขนาดของการ สั่นไหวครั้งก่อน
อันดับ 6 ซุปเปอร์สตาร์ จักรวาล ก็มีซุปเปอร์สตาร์ มันคือดาวนิวตรอน ( Neutron Stars ) ซึ่งเกิดจากดาวฤกษ์มวลมาก( 1.5 ถึง 3 เท่าของดวงอาทิตย์) ระเบิดเป็น ซุปเปอร์โนวาเมื่อมันเผาพลาญเชื้อเพลิงนิวเคลียร์จนห มดและยุบตัว ลงดาว นิวตรอนเป็นดาวที่มีความหนาแน่นมากที่สุด อัดแน่นไปด้วยนิวตรอนเกือบทั้งหมด เนื้อดาวขนาดหนึ่งช้อนชาจะหนักถึงหนึ่งพันล้านตันบนโ ลกหรือมากกว่า ดาวนิวตรอนที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์จะมีขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลางเท่ากับเมือง เล็กๆเท่านั้น เมื่อ ปี 2005 นาซาตรวจพบดาวนิวตรอนสองดวงชนกันซึ่งปล่อยรังสีแกมมา ออกมาอย่างมหาศาล มีความสว่างเท่ากับแสงของดวงอาทิตย์ถึง 100,000 ล้านล้านเท่า นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการชนกันของดาวนิวตรอนจะกลายเ ป็นหลุมดำในที่สุด
อันดับ 5 ดาว RRATs นัก ดาราศาสตร์ค้นพบคลื่นวิทยุที่ส่งมาจากดาวปริศนาหลายด วงในกาแล็กซี่ทางเผือก เป็นช่วงๆและในเวลาสั้นๆเพียง 1 ในร้อยของวินาทีเท่านั้น การศึกษาพัลซาร์หรือดาวนิวตรอนที่หมุนรอบตัวเองอย่าง รวดเร็วและปล่อยรังสี เอ็กซ์ รังสีแกมมา คลื่นวิทยุและแสงสว่างออกมาเป็นจังหวะ มากกว่า 800 ดวง พบว่าไม่ใช่ ต้นตอแน่นอน เพราะการส่งคลื่นวิทยุของมันแตกต่างกัน แต่ดาวปริศนานี้ก็หมุนรอบตัวเองคล้ายกับพัลซาร์ นักดาราศาสตร์เรียกดาวปริศนานี้ว่า Rotating Radio Transients หรือRRATs และ เชื่อว่ามันอาจจะเป็นดาวนิวตรอนชนิดหนึ่งที่มีวิวัฒน าการแตกต่างจาก ดาวนิวตรอนและดาวแม็กเนตาร์หรือกำลังวิวัฒนาการจากดา วนิวตรอนไปเป็นดาวแม็กเนตาร์ก็เป็นได้
อันดับ 4 ระบบดาวฤกษ์ ดาว ฤกษ์ส่วนใหญ่ในกาแลกซี่ทางช้างเผือกไม่ได้อยู่โดดเดี ่ยวอย่างดวงอาทิตย์แต่ อยู่รวมกันเป็นระบบที่เรียกว่า Multiple-Star Systems โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งจะอยู่กันเป็นคู่ๆที่เรียกว่า Binary Starsนอกจากพวกมันจะอยู่รวมกันแล้ว ดาวฤกษ์เหล่านี้จะมีดาวเคราะห์บริวารด้วยหรือไม่ ในปี 2005 นักดาราศาสตร์ก็ได้คำตอบเมื่อพบดาวเคราะห์บริวารดวงแ รกของดาวเคราะห์คู่
อันดับ 3 ซุปเปอร์โนวา ปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในท้องฟ้าอย่างหนึ่งก็คือ ซุปเปอร์โนวา (Supernova) การระเบิดของดาวฤกษ์มวลมากที่หมดอายุขัย ซึ่งจะส่งลำแสงพลังงานสูงและสสารสู่อวกาศ และยุบตัวลงเป็นดาวนิวตรอนหรือหลุมดำซุปเปอร์โนวามีค วามสว่างจ้าบนท้องฟ้าชั่วขณะหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็น ได้ด้วยตา เปล่าแม้ในเวลากลางวัน นับตั้งแต่เกิดซุปเปอร์โนวาเคปเลอร์เมื่อปี 1604 แล้ว นักดาราศาสตร์ก็ยังไม่พบซุปเปอร์โนวาที่เกิดในกาแล็ก ซี่ทางช้างเผือกอีกเลย
อันดับ 2 โซลาร์แฟลร์ ดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะก็มีความน่าพิศวง บรรยากาศของดวงอาทิตย์หรือ คอโรนา (Corona) จะมีอุณหภูมิสูงถึง 3.6 ล้านองศาฟาเรนไฮต์ หรือ 2 ล้านองศาเซลเซียส พลังงานความร้อนที่สูงมากขนาดนี้จะสาดอนุภาคพลังงานส ูงที่มีประจุไฟฟ้าให้ พุ่งออกจากดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วสูงเกือบเท่าความเร ็วแสง การประทุนี้เรียกกันว่าโซลาร์แฟลร์ (Solar Flares) ซึ่งทำให้เกิดพายุสุริยะ เมื่อพายุสุริยะเดินทางถึงชั้นบรรยากาศของโลกมันสามา รถทำลายระบบสื่อสารและ ดาวเทียมของโลกหรือ แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือได้การ ประทุโซลาร์แฟลร์ขนาดใหญ่ที่สุดมีพลังงานสูงเทียบเท่ ากับระเบิดไฮโดรเจนหลาย ล้านลูก หรือมีพลังงาน เพียงพอที่จะใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้นานถึง 100,000 ปีปัจจุบัน นักดาราศาสตร์อยู่ในช่วงเริ่มต้นการศึกษาเพื่อทำความ เข้าใจโครงสร้างและ ปฏิกิริยาภายในของดวงอาทิตย์เพื่อจะทำนายปรากฏการณ์อ ันน่าพิศวงอย่างเช่นโซ ลาร์แฟลร์นี้

อันดับ 1 ก็คือหลุมดำ (Black Holes) หลุมดำกำเนิดจากการยุบตัวของดาวฤกษ์มวลมากเมื่อสิ้นอ ายุขัย ความน่าพิศวงของหลุมดำก็คือมันมีความหนาแน่นมากจน กระทั่งไม่มีสิ่งใดๆจะหลุด รอดจากแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลของมันได้แม้กระทั่งแสง ปัจจุบัน นักดาราศาสตร์พบหลักฐานว่าหลุมดำมีอยู่จริง และยังพบว่ามีหลุมดำยักษ์ที่เรียกว่า Supermassive Black Holes ซึ่งมักจะอยู่บริเวณใจกลางกาแล็กซี่ด้วย

ที่มา : tutorgohome.com

เกร็ดความรู้สมุนไพร ว่าด้วยเรื่องรางจืด

2011/04/11

รางจืด อาหารต้านพิษ

อาหารการกินยุคนี้อะไรที่เกี่ยวข้องกับ “สุขภาพ” ถือว่า “อินเทรนด์”
มีข้อมูล”
อาหารต้านพิษ”จากมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
น่าสนใจนำมาเล่าสู่กัน ทางมูลนิธิฯ
ได้แนะนำเมนูอาหารต้านพิษด้วยสมุนไพร

“รางจืด” เป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ รางจืดมีการใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนานในหมอยาพื้นบ้านในด้านการเป็นยาแก้พิษ ไม่ว่าจะเป็นพิษยาเบื่อ ยาฆ่าแมลง พืชพิษ เห็ดพิษ รวมถึงพิษสุราและยาเสพติด ไม่เว้นแม้แต่พิษงู แมลงป่อง ตะขาบ สามารถนำไปใช้แก้พิษในสัตว์ที่ได้รับยาพิษ เช่น สุนัข หรือแมว ในตำรายาไทยรวมทั้งตำรายาพื้นบ้าน กล่าวไว้ว่า รางจืดนั้น รากและเถา รับประทานแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ใบและราก ใช้ปรุงเป็นยาถอนพิษไข้ เป็นยาพอกบาดแผล น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ผดผื่นคัน เริม สุกใส ทำลายพิษยาฆ่าแมลง หรือยาเบื่อ พิษจากการดื่มเหล้ามากเกินไป

สำหรับการนำ “รางจืด” มาทำเป็น “อาหารต้านพิษ” นั้น ทางมูลนิธิฯ แนะนำมาหลายเมนู ดังนี้

“ผัดสู้มลพิษ” หรืออีกชื่อเรียกว่า “ผัดยอดรางจืดใส่น้ำมันหอย”

โดยใช้ในส่วนของยอด หรือใบอ่อนของรางจืด เมนูนี้ ส่วนประกอบ อื่นก็เหมือนผัดน้ำมันหอยโดยทั่วไป ได้แก่ กระเทียม น้ำมันหอย น้ำตาล น้ำมัน และน้ำปลา

วิธีการทำ ใส่น้ำมันให้ร้อน ทอดกระเทียมให้หอม จากนั้นใส่ยอดหรือใบอ่อนรางจืดลงไปผัดพร้อมกับน้ำมันหอย และใส่เครื่องปรุงอื่นๆ ตามลงไป พร้อมปรุงรสตามต้องการ เป็นอันเสร็จ

“ไข่ฟูดูดพิษ” ซึ่งเป็น “ไข่เจียวใส่ดอกรางจืด”

ส่วนประกอบ ก็มี ไข่ไก่ ดอกรางจืด น้ำมัน พร้อมเครื่องปรุงรส (ไข่เจียว)

วิธีการทำ นำไข่ไก่มาตีให้เข้ากันเหมือนเตรียมจะทำไข่เจียว ปรุงรสตามต้องการ จากนั้นใส่ดอกรางจืดลงไป แล้วจึงนำลงทอดในน้ำมันร้อนๆ พอเหลืองกรอบ ตักขึ้นจากกระทะ เป็นอันเสร็จ

“สลัดทิ้งพิษ” อาหารสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ “สลัดเพื่อสุขภาพ” มีส่วนผสมของผักชนิดต่างๆ ที่น่าสนใจ

โดย ส่วนประกอบ หลักก็จะเป็นส่วนประกอบของผักสลัด ได้แก่ กะหล่ำหัว แครอท และผักสลัดอื่นๆ และก็ใส่ผักกระสัง และที่สำคัญคือใส่ยอด หรือใบอ่อนรางจืดด้วย ขณะที่ส่วนประกอบของน้ำสลัด ได้แก่ น้ำตาล 22% ซอสถั่วเหลือง 18% น้ำส้มสายชู 7% งาคั่ว 3%และน้ำมันงา 2%

วิธีการทำ น้ำสลัด นำน้ำตาล ซอสถั่วเหลือง มาผสมให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเติมน้ำส้มสายชู และน้ำมันงาตามลงไปผสม ตีให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วเติมงาคั่ว

“น้ำสมุนไพรรางจืด” เป็น “น้ำสมุนไพรล้างพิษ” ปิดท้ายมื้ออาหาร

ส่วนประกอบ หลักๆ ก็มี ใบรางจืด ใบเตยหอม และน้ำตาลทราย

วิธีการทำ นำใบรางจืดสด จำนวน 5-7 ใบ มาล้างให้สะอาด ใส่ต้มกับน้ำสะอาดจำนวน 1,500 ซีซี หรือประมาณ 1 กา ต้มจนเดือดก่อน แล้วจึงต้มต่อด้วยไฟอ่อนๆ อีก 10 นาที ผสมใบเตยหอมเล็กน้อยเพื่อแต่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย หรือใช้ใบหญ้าหวาน เทใส่แก้วดื่มขณะอุ่นๆ หรือเติมน้ำแข็งเป็นชนิดเย็น ดื่มครั้งละ 1 แก้ว (จำนวน 250 ซีซี) วันละ 4-5 ครั้ง ดีต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากทางมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แจ้งว่า ใครสนใจสูตรต่างๆ ที่ว่ามา ก็สามารถนำไปฝึกทำได้ ไม่มีลิขสิทธิ์ “พืชสมุนไพรไทย” ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้น มีมากมายหลายหลาก

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เหตุผล 8 ประการที่ควรพิจารณาเครื่อง Tablet PC

2011/04/07

เมื่อคุณตัดสินใจว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพาเครื่องใหม่ ที่ปัจจุบันเครื่องมีราคาลดลง แต่กลับมีคุณสมบัติต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ คุณสามารถซื้อรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง คล่องตัว พร้อมแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งรวมอยู่ในตัวเครื่องที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม

แต่ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณควรพิจารณา นั่นคือ Tablet PC ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดสมบูรณ์แบบที่มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเครื่องเท่ากับสมุดบันทึกขนาดเท่ากระดาษจดหมาย ด้วยราคาที่เท่ากับแล็ปท็อประดับสูง คุณจะได้ทุกสิ่งที่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมีให้ และยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอื่นๆ อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขนาดของตัวเครื่องที่กะทัดรัด มีหน้าจอที่ทำงานโดยใช้ปากกา และความสะดวกง่ายดายในการใช้งานในที่ประชุมและขณะเดินทาง ใช้ระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุด และสามารถใช้โปรแกรมต่างๆ ได้ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ คุณสามารถแก้ไขเอกสารและส่งอีเมลที่มีข้อความที่เขียนด้วยลายมือของคุณเอง และแปลงลายมือเขียนของคุณให้เป็นข้อความตัวพิมพ์ได้ มีโปรแกรมช่วยอ่านลายมือที่เขียนอย่างหวัด เครื่องบางรุ่นมีความสามารถในการรับคำสั่งเสียงอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางและประชุมอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ทุกคนจะอยากได้ Tablet PC โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เครื่องแล็ปท็อปมีราคาลดลง บางคนไม่ชอบแป้นพิมพ์ที่มีขนาดเล็กลง ในขณะที่บางคนไม่ได้ใช้ปากกาดิจิทัล หรือใช้ประโยชน์จากความคล่องตัวในการพกพาที่เพิ่มขึ้น หรืออาจรู้สึกเฉยๆ กับรูปลักษณ์ใหม่ แต่สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางและประชุมอยู่ตลอดเวลา Tablet PC จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับบุคคลกลุ่มนี้ รวมทั้งนักศึกษา พนักงานขาย แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สถาปนิก วิศวกร นักวิจัย ตลอดจนผู้ที่มีอาชีพอื่นๆ ที่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานง่าย นำไปในที่ต่างๆ ได้สะดวก

Alan Promisel นักวิเคราะห์การวิจัยของ IDC กล่าวว่า “ผมเคยดูการสาธิตเกี่ยวกับเครื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว และรู้สึกประทับใจมาก เป็นผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมจริงๆ และสามารถช่วยให้การทำงานต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น” เขาเสริมว่า เทคโนโลยีการจดจำลายมือของไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักของ Tablet PC นับเป็นการก้าวกระโดดและทลายขีดจำกัดครั้งสำคัญ และคิดว่าจะมีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เขากล่าวว่า “เมื่อมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ผู้คนก็จะเริ่มยอมรับรูปลักษณ์ใหม่นี้มากขึ้น” รุ่นฝาหมุนพับได้และรุ่นกระดานชนวน Tablet PC แบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นฝาหมุนพับได้ ซึ่งประกอบด้วยจอภาพขนาดสมุดบันทึก พร้อมด้วยแป้นพิมพ์ในตัวที่สามารถพับปิดเปิดได้เหมือนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และรุ่น ‘กระดานชนวน’ ที่แยกจอภาพออกจากแป้นพิมพ์ โดยสามารถเชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์ด้วยแป้นเชื่อมต่อ

ปัจจุบัน Tablet PC ผลิตโดยผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ๆ โดยรันด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Tablet PC Edition ของไมโครซอฟท์ และคุณไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์พิเศษใดๆ เพิ่มเติม เพราะคุณสามารถนำชุดโปรแกรม Office และโปรแกรมสำหรับธุรกิจอื่นๆ ที่คุณใช้กับ Windows XP มาใช้กับ Tablet PC ได้

Todd Payne ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์กล่าวว่า “Tablet PC เป็นเครื่องที่วิวัฒนาการมาจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โดยมีพลังและประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เสริมด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ อีกมากมาย และคุณสามารถนำไปได้ทุกที่” เพราะเหตุใดผมจึงคิดว่า Tablet PC มีคุณสมบัติดีพอที่จะเลือกซื้อ

  1. Tablet PC รันด้วยระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุดของไมโครซอฟท์ ระบบปฏิบัติการ Windows Tablet PC คือระบบหลักของ Windows Professional เสริมด้วยคุณสมบัติ “การประมวลผลด้วยปากกา”
  2. Tablet PC ช่วยให้คุณสามารถขยายการใช้งานเครื่อง PC ของคุณ คุณยังคงพิมพ์บันทึกหรือข้อความต่างๆ และใช้อินเทอร์เน็ตได้เหมือนกับการใช้โน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไป แต่ด้วยคุณสมบัติเสริม “การประมวลผลด้วยปากกา” คุณสามารถใช้ระบบกระดาษ/ปากกาแบบดิจิทัลกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ด้วย “ปากกาดิจิทัล” ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง และคุณสมบัติ “หน้าจอป้อนข้อมูล” (ซึ่งมีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์บนจอภาพ) คุณสามารถเขียนข้อความบนจอได้โดยตรงแล้วบันทึกเป็นลายมือของคุณ หรือแปลงลายมือให้เป็นตัวพิมพ์ได้ ปากกาดิจิทัลจะสามารถใช้แทนเมาส์และแป้นพิมพ์ หรือคุณจะใช้เมาส์และแป้นพิมพ์ตามปกติก็ได้เช่นกัน
  3. คุณสามารถจดบันทึกของคุณแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดย Windows Tablet PC Edition มีโปรแกรมอรรถประโยชน์ในการจดบันทึกที่เรียกว่า Microsoft Windows Journal ให้คุณใช้จัดทำและจัดการบันทึกที่เขียนด้วยลายมือของคุณ บันทึกของคุณไม่ว่าจะเป็นข้อความ แผนผัง ภาพวาด ซึ่งตามปกติคุณเขียนด้วยการใช้กระดาษและปากกา จะถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ในโปรแกรม Windows Journal และเทคโนโลยีการจดจำลายมืออันทันสมัยของ Tablet PC จะช่วยให้คุณสามารถค้นหาบันทึกที่เป็นลายมือของคุณได้อย่างรวดเร็วเพื่อค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ
  4. คุณสามารถทำงานได้จากทุกที่ และไม่รบกวนการประชุมด้วย บางบริษัทจะห้ามหรือไม่สนับสนุนให้พนักงานใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คในที่ประชุม เนื่องจากฝาเครื่องที่เป็นหน้าจอจะขวางกั้นผู้ใช้เครื่องและผู้พูด คุณจะไม่มีการสบสายตากับผู้พูดในขณะที่คุณกำลังพิมพ์ข้อความบนแป้นพิมพ์ แต่ด้วยการใช้ปากกาดิจิทัลกับจอภาพขนาดกระดาษจดหมาย (โดยพับเก็บแป้นพิมพ์ไว้) ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถสบสายตากับผู้พูดในขณะเดียวกันสามารถจดบันทึกการประชุมลงบนจอภาพ หรือแม้กระทั่งอาจเหลือบดูอีเมลของตนหรือเข้าอินเทอร์เน็ตก็ยังได้ ในขณะเดียวกัน ความสามารถในด้านความคล่องตัวและระบบไร้สายของเครื่องแล็ปท็อปที่มีใน Tablet PC ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานในคอฟฟี่ช็อป ในห้องเรียน ในเครื่องบิน หรือในห้องของโรงแรมได้
  5. Tablet PC จะกลายเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวหลักของคุณ ชนิดสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เครื่อง PDA ดังนั้น คุณจึงไม่ต้อง “ซิงค์” กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของคุณ และรุ่นฝาแบบหมุนพับได้จะมีแป้นพิมพ์ในตัวที่พับเข้ากับส่วนที่เป็นจอภาพ รุ่นกระดานชนวนที่มาพร้อมกับแป้นเชื่อมต่อเพื่อต่อกับแป้นพิมพ์บนโต๊ะได้อย่างสะดวก การปลดเครื่องออกก็แสนง่าย และเครื่อง Tablet PC ยังสามารถเปลี่ยนจากสถานะสแตนด์บายเป็นพร้อมใช้งานได้ด้วยเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย Promisel จาก IDC คาดการณ์ไว้ว่า ในเวลาไม่นาน ผู้ใช้จำนวนมากจะถือว่า Tablet PC เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหลักของตน
  6. คุณสามารถประสานการทำงานกับผู้ร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการดาวน์โหลด Office Pack สำหรับ Tablet PC เพื่อที่จะสามารถใช้ระบบปากกาดิจิทัลกับโปรแกรมหลักได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มความเห็นหรือเพิ่มภาพวาดด้วยลายมือของคุณลงในเอกสาร Microsoft Word หรือจะเน้นจุดสำคัญในการนำเสนอ PowerPoint หรือเขียนแล้วส่งอีเมลด้วยลายมือโดยใช้โปรแกรม Outlook และแบ่งปันเอกสารที่เขียนด้วยลายมือกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์รายอื่นๆ โดยไม่คำนึงว่าผู้ใช้รายนั้นใช้ Tablet PC หรือไม่ คุณสามารถเน้นรายการ ตัดและวางข้อความลายมือเช่นเดียวกับที่ทำในข้อความพิมพ์แบบเดิม และแปลงลายมือเขียนให้เป็นข้อความพิมพ์ได้มากเท่าที่ต้องการ
  7. คุณสามารถปรับแต่งเครื่องได้ตามความชอบส่วนตัวหรือตามการใช้งานในแต่ละประเทศ และสามารถตั้งค่าจอภาพและปากกาให้เป็นลักษณะการใช้งานสำหรับผู้ถนัดซ้ายหรือถนัดขวา และการตั้งค่าปุ่ม สำหรับการทำงานต่างๆ นอกจากนี้ Windows Tablet PC Edition ยังมีภาษาต่างๆ ให้เลือกใช้รวมทั้งสนับสนุน Windows Multilingual User Interface ที่ให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงภาษาที่ใช้ในกล่องโต้ตอบ เมนู ไฟล์วิธีใช้ พจนานุกรม และโปรแกรมตรวจสอบคำผิด ให้เป็นภาษาของผู้ใช้ได้
  8. ข้อมูลของคุณจะได้รับการเข้ารหัสและป้องกันเพื่อความปลอดภัย Windows Tablet PC Edition มีคุณลักษณะด้านการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของ Windows Professional รวมทั้งคุณลักษณะการรักษาความปลอดภัย Encrypting File System และ “การควบคุมการเข้าใช้” รวมทั้งยังสนับสนุนการล็อกออนอย่างปลอดภัยด้วยปุ่ม CTRL+ALT+DEL ชนิดปุ่มเดียว

ที่มา : บทความจาก Microsoft SME Business Centre

    “นิวัตร”เต็งหนึ่งปลัดกระทรวงศึกษาฯ

    2011/04/06

    วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554

    คมชัดลึก > การศึกษา > ข่าวทั่วไป

    “นิวัตร”เต็งหนึ่งปลัดกระทรวงศึกษาฯ

    คมชัดลึก : “เฉลียว อยู่สีมารักษ์” ลาออกก่อนเกษียณในตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ” ในครั้งนี้ ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวมานานข้ามปีว่า “นายเฉลียว” จะลาออกจากตำแหน่งก่อนเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนปีนี้

    การทิ้งเก้าอี้ปลัด ศธ. ของนายเฉลียว เป็นที่แน่ชัดว่า เพื่อเบนเข็มเข้าสู่เวทีทางการเมือง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โดยการชักนำของ “นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คนปัจจุบัน เพื่อจะลงสมัครในสัดส่วนของ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

    ว่ากันว่า “นายเฉลียว” ถูกจัดอยู่ในลำดับต้นๆ ของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลสำคัญ พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ความสำคัญกับงานด้านการศึกษา เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง อีกทั้งต้องการได้คนที่มีความรู้ ความสามารถด้านการศึกษา จึงได้ดึง “นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์” รวมทั้งยังได้ดึง “ดร.สุเมธ แย้มนุ่น” เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2554 นี้เช่นกัน ไปร่วมงานด้วย ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง (ซี 11) ของกระทรวงศึกษาธิการว่างลงทันที 2 ตำแหน่ง

    เหนืออื่นใด มีความเป็นไปได้สูงว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเสนอโยกย้ายและแต่งตั้งผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการในคราวเดียวกัน

    ผู้ที่มีโอกาสจะได้รับการพิจารณาให้นั่งเก้าอี้ “ปลัด ศธ.” ที่มาแรงมี 3 คน คือ “นายนิวัตร นาคะเวช” รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามติดด้วย “ดร.สมเกียรติ ชอบผล” รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ “นายอภิชาต จีระวุฒิ” เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(สำนักงาน กศน.)

    แคนดิเดตในแหน่ง “ปลัดศธ.” ทั้ง 3 คน หากพิจารณาถึงความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการแล้ว เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าคะแนนมาเต็งหนึ่งคือ “นายนิวัตร นาคะเวช” อดีตศิษย์เก่าดีเด่น ภาควิชาการบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้มีเส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยบุคลิกที่เป็นคน “ตรงไป ตรงมา” ไม่เข้าหาเจ้านาย ตำแหน่งที่ได้มาในทุกช่วงชีวิต จึงมาด้วย “ความรู้ ความสามารถ” ไม่มีการวิ่งเต้นเส้นสาย

    ไล่เรียงมาตั้งแต่ตำแหน่ง อาจารย์โรงเรียนสตรีภูเก็ต ศึกษานิเทศก์ ผู้อำนวยการสามัญศึกษาจังหวัด(เหลือคนเดียวในศธ.) รองอธิบดีกรมสามัญศึกษา (เหลือคนเดียวในศธ.) และผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนก้าวสู่ตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรั้งเก้าอี้ “เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ” ในปัจจุบัน ด้วยอายุราชการที่เหลือ 1 ปี 6 เดือน

    “นายนิวัตร” เคยสร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ ในฐานะเจ้าของสโลแกน “ลูกอยุธยายิ้มไหว้ทักทายกัน” เมื่อปี 2543 จนกลายเป็นวลีเด็ด ขึ้นป้ายหราติดทุกมุมเมืองของประเทศไทย และได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ เพราะกระแสเกิด “ยิ้มสยาม” ฟีเวอร์

    “ดร.สมเกียรติ ชอบผล” นักวิชาการขั้นเทพ มือสะอาด อดีตแคนดิเดตเก้าอี้ เลขาธิการ กพฐ. ก่อน “ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน” จะนั่งในตำแหน่งนี้แทน ท่ามกลางความ “ผิดหวัง” ของข้าราชการในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่จะเกษียณอายุราชการในอีก 6 เดือน

    “นายอภิชาต จีระวุฒิ” แคนดิเดตคนที่ 3 ในตำแหน่งปลัดศธ.จัดได้ว่าเป็นคนที่มีความสนิทแนบแน่นกับอดีตปลัด “เฉลียว อยู่สีมารักษ์” ในฐานะ “ผู้ใต้บังคับบัญชา” สายตรง จัดได้ว่าเป็นคนถึงลูกถึงคน จนในบางครั้งถูกมองว่า “ล้ำเส้น” คนอื่นมากไป แต่เจ้าตัวมักเคลียร์ได้ทุกปัญหา

    หาก “นายชินวรณ์” เลือก ดร.สมเกียรติ ในฐานะเป็นคนใต้เพราะเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช เหมือนกัน เพื่อรักษา “น้ำใจ” หลังพลาดหวังเก้าอี้ “เลขาธิการกพฐ.” อาจต้องตอบคำถามสังคมถึงหลักการพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่า “จะไม่เลือกคนที่เหลืออายุราชการ 6 เดือน” ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของข้าราชการ

    กระนั้น “นายชินวรณ์” ต้องเตรียมตอบคำถามข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการเอาไว้ด้วยเช่นกัน หากผู้ที่ได้รับความไว้วางใจนั่งเก้าอี้ “ปลัดศธ.” คือ นายอภิชาต จีระวุฒิ เลขาธิการ กศน.

    ในทางกลับกัน “นายชินวรณ์” จะตอบคำถามน้อยลง หากปลัดศธ.คนใหม่ชื่อ “นิวัตร นาคะเวช” ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อม ในฐานะนักการศึกษาที่ลงมือปฏิบัติจริง ผ่านการงานบริหาร ทั้งในระดับโรงเรียน ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับชาติ

    ที่สำคัญประเทศไทยเตรียมเฉลิมฉลอง 100 ปี ลูกเสือไทยในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 นี้ ต้องต้อนรับแขกต่างบ้านต่างเมืองเข้าร่วมงาน ซึ่ง “นายนิวัตร” เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของประเทศไทย ในฐานะ “เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ” ผู้มีความฝันจะปั้นเด็กไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ผ่านกระบวนการ “ลูกเสือไทย”

    ตำแหน่งที่จะถูกโยกย้าย นอกเหนือจากตำแหน่งปลัดศธ.แล้ว คาดว่า “ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน” เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) จะโยกไปเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) แทน “ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ” เลขาธิการสกศ. ที่จะไปเป็นเลขาธิการ กกอ. แทน “ดร.สุเมธ แย้มนุ่น” และให้ ดร.สมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ. ขึ้นเป็น เลขาธิการ กพฐ.

    เพื่อรองรับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นภายใน 45 วันหลังยุบสภา มีแนวโน้มว่าจะมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงศึกษาธิการที่ว่างลงทันที ก่อนที่ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี จะประกาศยุบสภาด้วย

    0 กมลทิพย์ ใบเงิน 0 รายงาน

    เกร็ดความรู้เรื่อง “เครือข่ายสังคมออนไลน์” สำหรับผู้สูงวัย

    2011/03/24

    กระแสนิยมของเครือข่ายทางสังคมบนโลกออนไลน์ที่เชื่อมโยงถึงกันจนกลายเป็นสังคมเสมือนจริง ผู้ใช้ได้ร่วมใช้ประโยชน์เชิงสังคมมากขึ้น เครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่มาแรงแซงใครนั่นคือ “Face book”

    เครือข่ายฯ นี้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว บทความ รูปภาพ ผลงาน พบปะนัดหมายและแสดงความเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมไปถึงความสามารถร่วมกันสร้างเนื้อหาใหม่ได้ตามความสนใจ

    แนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อสังคมอย่างชัดเจนคือข่าวสารเป็นสาธารณะมากขึ้น ชุมชนได้ร่วมรับรู้และร่วมแสดงความคิดเห็นผู้สื่อข่าวโดยง่าย

    จึงอยากเชิญชวนให้เหล่าผู้สูงวัยที่มากประสบการณ์ มาช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันให้กับบุตรหลาน สร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและเฝ้าระวัง ให้รู้เท่าทันบุตรหลาน ให้เกิดการเรียนรู้สู่สังคมเป็น“ปัญญาสาธารณะ”ให้เป็นนวัตกรรมของสังคมในทางสร้างสรรค์ตลอดไป

    My hardware in my home

    2011/03/23

    This slideshow requires JavaScript.

    ซุ้มกล้วยไม้บนซากเรือ

    2011/03/23

    This slideshow requires JavaScript.